ระบบโซล่าเซลล์อินเวอร์เตอร์ (Inverter) คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซล่าเซลล์จากรูปแบบกระแสตรง (DC) เป็นกระแสสลับ (AC) ก่อนเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของตัวบ้านเพื่อนำไปใช้งานตามมาตรฐานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกัน 2 ระบบ คือ ไมโครอินเวอร์เตอร์ กับ สตริงอินเวอร์เตอร์
ไมโครอินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter)
ไมโครอินเวอร์เตอร์เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของแผงโซลาร์เซลล์แต่ละแผง ซึ่งทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) แยกการทำงานของแต่ละแผงออกจากกัน ไมโครอินเวอร์เตอร์จะติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของแผงโซลาร์เซลล์แต่ละแผง และทำงานอย่างอิสระต่อกัน ส่งผลให้ระบบผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุดแม้มีแผงใดแผงหนึ่งมีปัญหาหรือได้รับเงาบ้าง
ข้อดีของไมโครอินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter)
1.ประสิทธิภาพสูง
เนื่องจากแต่ละแผงทำงานแยกจากกัน ถ้าหากแผงใดแผงหนึ่งโดนบังหรือมีปัญหา แผงอื่นๆ ยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามปกติ
2.ความปลอดภัยสูง
ทำงานด้วยแรงดันไฟฟ้าต่ำ ซึ่งลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าช็อตหรือไฟไหม้
3.ติดตั้งง่าย
สามารถติดตั้งกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ทุกประเภท และสามารถเพิ่มแผงได้ในภายหลังโดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบทั้งหมด
4.การตรวจสอบแยกแผง
สามารถตรวจสอบการผลิตไฟฟ้าและประสิทธิภาพของแผงแต่ละแผงผ่านแอปพลิเคชัน
5.อายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสียของไมโครอินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter)
1.ต้นทุนสูง
ราคาของไมโครอินเวอร์เตอร์สูงกว่าสตริงอินเวอร์เตอร์
2.การติดตั้งซับซ้อน
ต้องติดตั้งไมโครอินเวอร์เตอร์บนแผงเซลล์แสงอาทิตย์แต่ละแผง ซึ่งใช้เวลามากกว่าและต้องการแรงงานมากกว่า
สตริงอินเวอร์เตอร์ (String Inverter)
สตริงอินเวอร์เตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแผงโซลาร์เซลล์เป็นกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) โดยเชื่อมต่อแผงโซลาร์เซลล์หลายแผงในลักษณะอนุกรม (Series) และเชื่อมต่อทั้งหมดเข้ากับอินเวอร์เตอร์เพียงตัวเดียว
ข้อดีของไมโครอินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter)
1.การแก้ไขปัญหาง่าย
เนื่องจากมีเพียงอินเวอร์เตอร์เดียวในการทำงาน จึงง่ายต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
2.บำรุงรักษาง่าย
การบำรุงรักษาอินเวอร์เตอร์เพียงตัวเดียวจะง่ายกว่าการดูแลรักษาหลายๆ ไมโครอินเวอร์เตอร์
ข้อเสียของไมโครอินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter)
1.การทำงานขึ้นอยู่กับแผงทั้งหมด หากแผงโซลาร์เซลล์ในสตริงใดมีปัญหา เช่น การบังแดดหรือการเสียหาย จะส่งผลให้ประสิทธิภาพของทั้งสตริงลดลงหรือหยุดทำงานทั้งหมด
2.ขนาดใหญ่และต้องใช้พื้นที่มาก: อินเวอร์เตอร์แบบสตริงมีขนาดใหญ่และต้องการพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าไมโครอินเวอร์เตอร์
3.ความปลอดภัยต่ำกว่า มีแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงที่สูงมากจากแผงโซลาร์เซลล์วิ่งพาดผ่านบนหลังคามาถึงอินเวอร์เตอร์ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในด้านความปลอดภัย
สรุป
– ไมโครอินเวอร์เตอร์ เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงและประสิทธิภาพที่แม่นยำ เช่น บ้านที่มีการบังเงาหรือการทำงานของแผงมีความแตกต่างกัน อินเวอร์เตอร์ประเภทนี้มีความปลอดภัยสูงและสามารถตรวจสอบได้ง่ายแต่มีต้นทุนที่สูงกว่า
– สตริงอินเวอร์เตอร์ เหมาะสำหรับระบบขนาดใหญ่ที่มีแผงโซลาร์เซลล์จำนวนมาก ซึ่งต้นทุนการติดตั้งและบำรุงรักษาต่ำกว่า แต่ต้องระวังเรื่องการทำงานที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาของแผงโซลาร์เซลล์ในสตริงเดียวกัน การเลือกประเภทของอินเวอร์เตอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการและข้อกำหนดเฉพาะของระบบโซลาร์เซลล์แต่ละระบบ
